
ผลเสียของ “ความดันโลหิตสูง” และวิธีลด “ความดันโลหิตสูง” ได้อย่างไรบ้าง
ผลเสียของ “ความดันโลหิตสูง” และวิธีลด “ความดันโลหิตสูง” ได้อย่างไรบ้าง

ผลเสียของ “ความดันโลหิตสูง” และวิธีลด “ความดันโลหิตสูง” ได้อย่างไรบ้าง
ผลเสียของความดันโลหิตสูงที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อนในชีวิตนี้
หลายคนอาจจะยังไม่รู้นะครับว่าความดันโลหิตเนี่ยมีอยู่ทุกคนอยู่แล้ว เพราะถ้าไม่มีเลือดก็จะไม่สามารถไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้นั่นเองครับ เข้าเรื่องกันดีกว่ากับโรค “ความดันโลหิตสูง” ที่แม้จะโชคดีที่ไม่ใช่โรคติดต่อ แต่หลายคนมักจะเป็นกันและถ้าปล่อยไว้นานอาจทำให้คุณเสียชีวิตได้
“ความดันโลหิตสูง” เท่าไหร่ถึงเรียกว่าสูง
โดยปกติแล้วความดันโลหิตของคนเราจะอยู่ที่ประมาณ 120/80 มิลลิเมตรปรอท หากมากกว่า 140 มิลลิเมตรปรอท หรือต่ำกว่า 90 มิลลิเมตรปรอท ก็จะเรียกว่าความดันโลหิตสูง
ปัจจัยเสี่ยงของการเกิดความดันโลหิตสูง
- “ความดันโลหิตสูง” จะเกิดขึ้นได้บ่อยมาก ๆ ในผู้สูงอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป
- เรื่องรูปร่างก็มีส่วนสำคัญ “ความดันโลหิตสูง” มักจะพบได้ในผู้ที่มีรูปร่างอ้วน แต่ก็สามารถเกิดขึ้นได้ในคนผอมเช่นเดียวกัน
- กรรมพันธุ์ก็เป็นส่วนหนึ่งของโรคความดันโลหิตได้เช่นเดียวกัน
- ผู้ที่หลงไหลในงานปาร์ตี้(ดื่มแอลกอฮอล์หรือสูบุหรี่หนัก)
- ผู้หญิงมีโอกาสเป็น“ความดันโลหิตสูง”ได้มากกว่าผู้ชาย
ถ้าไม่รักษา “ความดันโลหิตสูง” จะเกิดอะไรขึ้น
- หัวใจจะทำงานหนักมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมทำให้มีโอกาสหัวใจวายเฉียบพลันได้
- ประสาทตาจะค่อย ๆ เสื่อมลง เริ่มแรกตาจะค่อย ๆ มัว ๆ แต่ถ้าปล่อยไว้ตาอาจจะบอดได้
- ไตจะเสื่อมลงทำให้มีโอกาสไตวายได้
- เมื่อ “ความดันโลหิตสูง” ทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองได้ไม่ดีจึงทำให้มีโอกาสเส้นเลือดในสมองแตกได้ง่ายกว่าคนปกติ
วิธีดูแลตัวเองให้ห่างไกลจาก “ความดันโลหิตสูง”
- ไม่ดื่มกาแฟ, แอลกอฮอล์ และสูบบุหรี่
- ออกกำลังกายวันละ 30 นาทีเป็นอย่างน้อย
- ลดรับประทานอาหารที่มีโซเดียมเยอะ และทานผักผลไม้ให้มากยิ่งขึ้น
- จัดการตัวเองในเรื่องของความเครียด ถ้าเครียดมาก ๆ ก็มีโอกาสทำให้ความดันโลหิตสูง
- ปรึกษาแพทย์ผู้เขี่ยวชาญ
สรุปแล้ว “ความดันโลหิตสูง” มีโรคที่เรียกได้ว่าภัยเงียบที่จะทำให้คุณพิการหรือเสียชีวิตโดยไม่ทันรู้ตัวหากปล่อยไว้เป็นเวลานาน ๆ การวัดความดันบ่อย ๆ ถือเป็นสิ่งที่ควรทำแม้จะอยู่ที่บ้านของตัวเองก็ตาม เพื่อเป็นการเช็คว่าค่าความดันของตัวเองอยู่ที่เท่าไหร่ แต่ถ้าอยู่ข้างนอกก็ควรหาตัวช่วยอย่างนาฬิกาเพื่อสุขภาพ Hcare ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็สามารถวัดความดันได้ทุกที่ มาพร้อมกับฟังก์ชันอีกเพียบ ให้เราดูแลสุขภาพที่ดีของคุณด้วย Hcare