
อายุกับไลฟ์สไตล์ของคุณ เหมาะกับนาฬิกาสุขภาพแบบไหน?

ในยุคนี้ไม่ว่ามองไปทางไหนก็จะเห็นว่าผู้คนนิยมใส่ Smart Watch กัน เนื่องจากกระแสการรักสุขภาพที่เพิ่มมาก ทำให้หลายคนมองเห็นประโยชน์ของ Smart watch ที่จะเข้ามาตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่ต้องการความสะดวกสบายของผู้คนในยุคนี้ อย่างการวัดค่าต่าง ๆ ของร่างกาย การเชื่อมต่อการใช้งานกับแอปพลิเคชั่นได้สะดวก ซึ่งถือว่าสอดรับต่อความต้องการของคนในยุคดิจิทัล จุดนี้เองจึงทำให้มีผู้ใช้งาน Smart watch สูงขึ้นเรื่อย ๆ ทุกปี
อย่างในประเทศไทยเอง เมื่อปี 2566 ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ยังกล่าวว่า ปัจจุบันประชาชนเข้าถึงระบบดิจิทัลและใช้อุปกรณ์ดิจิทัลด้านสุขภาพมากขึ้น พบว่ามีการใช้ Smart Watch เพิ่มขึ้นถึง 22.2%
นั้นอาจจะเพราะไม่ใช่แค่คนหนุ่มสาวเท่านั้นที่หันมาใช้ Smart watch กันมากขึ้น แต่ผู้สูงอายุเองก็หันมาให้ความสนใจมากขึ้นเช่นกัน เพราะแน่นอนว่าไม่ใช่แค่เพียงการใส่ใจสุขภาพ แต่เพื่อความปลอดภัยในการดำเนินชีวิต อย่างในบางรุ่นที่มีการ Alert เมื่อตรวจพบว่าคลื่นหัวใจผิดปกติ ฟังก์ชันตรวจจับการล้ม และโทรออกฉุกเฉิน การตรวจวัดความดันโลหิต และออกซิเจนของเลือดได้ง่าย ๆ ที่บ้าน
และเนื่องจากที่ผู้คนหันมาสนใจ Smart watch กันมากขึ้น รวมถึงหาซื้อให้ผู้ใหญ่ที่บ้านใส่กัน ทำให้ปัจจุบันมี Smart Watch ออกมาวางขายในตลาดมากมาย หลายรุ่นก็พัฒนาให้ตอบโจทย์การใช้งานที่แตกต่างกันไป
แล้วเราจะรู้ได้ยังไงล่ะ? ว่าเราต้องใช้แบบไหน
เราอาจจะพิจารณาได้จากอายุ และไลฟ์สไตล์ของบุคคลนั้น ๆ ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถเลือกนาฬิกาที่ตอบโจทย์การใช้งานและฟีเจอร์ที่เหมาะสมกับผู้ใช้งาน
- วัยรุ่น / คนทำงาน (อายุ 18-35 ปี)
ไลฟ์สไตล์: กิจกรรมหลายรูปแบบ เช่น ออกกำลังกาย, วิ่ง, ปั่นจักรยาน, หรือเดินทางบ่อย
ฟีเจอร์ที่ควรมี:
ระบบติดตามกิจกรรมต่าง ๆ (ก้าวเดิน, แคลอรี่เผาผลาญ)
ตรวจจับการนอนหลับ
ฟังก์ชันการออกกำลังกาย เช่น การวิ่ง, ว่ายน้ำ, โยคะ
การเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน (เช่น การแจ้งเตือนข้อความ, โทรศัพท์)
แบตเตอรี่ที่ทนทาน
2. วัยกลางคน (อายุ 36-50 ปี)
ไลฟ์สไตล์: อาจจะมีการออกกำลังกายบ้าง แต่เน้นไปที่การทำงานและดูแลครอบครัว
ฟีเจอร์ที่ควรมี:
การตรวจจับสุขภาพทั่วไป เช่น การวัดอัตราการเต้นของหัวใจ, ความดันเลือด
การติดตามสุขภาพอย่างเช่น การนอนหลับ, ความเครียด
ฟังก์ชันที่ช่วยเสริมสร้างสุขภาพ เช่น การเตือนให้ออกกำลังกาย
การวิเคราะห์การนอนหลับและแนะนำปรับปรุงการนอน
3. ผู้สูงอายุ (อายุ 50 ปีขึ้นไป)
ไลฟ์สไตล์: ส่วนใหญ่จะลดกิจกรรมทางกายภาพลง แต่ยังต้องการติดตามสุขภาพและการเคลื่อนไหว
ฟีเจอร์ที่ควรมี:
การตรวจจับการล้ม (Fall Detection)
การติดตามสัญญาณชีพ เช่น อัตราการเต้นของหัวใจ, ออกซิเจนในเลือด
การตรวจสุขภาพเบื้องต้น เช่น การวัดความดันโลหิต
ฟังก์ชันแจ้งเตือนหรือช่วยเหลือในกรณีฉุกเฉิน
หน้าจอขนาดใหญ่และอ่านง่าย
การพัฒนาแบบไม่หยุดยั้งของ Smart watch ที่มีให้เลือกหลากหลายรุ่น และมีเอกลักษณ์เฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ ฟีเจอร์และฟังก์ชันที่แตกต่างกัน
การเลือกนาฬิกาสุขภาพจึงขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการฟีเจอร์อะไรและมีไลฟ์สไตล์แบบไหน เพราะนาฬิกาบางรุ่นจะเหมาะกับคนที่รักการออกกำลังกาย ขณะที่บางรุ่นจะเน้นการติดตามสุขภาพทั่วไปและการดูแลที่เหมาะกับผู้สูงอายุ
อ้างอิง: Healthline, CNET, Wired, MGR Online