
นาฬิกาวัดน้ำตาล vs เครื่องเจาะปลายนิ้ว ต่างกันยังไง ใช้แทนกันได้ไหม?

อีกหนึ่งข้อสงสัยที่หลายคนถามเข้ามาเป็นจำนวนมากเลยก็คือ การวัดน้ำตาลด้วยนาฬิกากับเครื่องเจาะปลายนิ้ว แตกต่างกันไหมใช้แทนกันได้หรือเปล่า
ก่อนอื่นเลยต้องบอกว่า “น้ำตาล” เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของคนเราเลยก็ว่าได้ ขนาดที่มี Meme ตลก ๆ เมื่อเรางดน้ำตาล อาการก็จะหงุดหงิดจนพาลไปทั่ว แต่แม้ว่าน้ำตาลจะช่วยให้เราอารมณ์ดีขึ้น แต่ผลเสียที่น้ำมาก็ค่อนข้างมาก ไม่ว่าจะเป็นน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น หรือแม้แต่โรคเบาหวาน เป็นต้น
การรู้ค่าน้ำตาลก่อนจึงจะทำให้เรารู้ทันโรค และมีสุขภาพที่ดีขึ้นได้ แต่วิธีที่ตรวจได้ก็สามารถทำได้ด้วยการเจาะกับเครื่องตรวจปลายนิ้ว และใช้นาฬิกาวัดน้ำตาลนั่นเอง
– การตรวจน้ำตาลด้วยนาฬิกาวัดน้ำตาล –
วิธีการวัด = ใช้เซ็นเซอร์ตรวจวัดระดับน้ำตาลจากของเหลวใต้ผิวหนัง (Continuous Glucose Monitoring – CGM) ไม่จำเป็นต้องเจาะเลือดให้เจ็บตัว
ความแม่นยำ = อาจมีความคลาดเคลื่อนจากระดับน้ำตาลในเนื้อเยื่อ
ความสะดวก = สามารถตรวจค่าน้ำตาลได้ทั้งวันก่อนและหลังอาหาร ที่ไหนเมื่อไหร่ก็ได้
การแจ้งเตือน = บางรุ่นสามารถแสดงแนวโน้มระดับน้ำตาลในร่างกายของเราได้
– การตรวจน้ำตาลด้วยนาฬิกาวัดน้ำตาล –
วิธีการวัด = ใช้เข็มเจาะปลายนิ้วเพื่อวัดระดับน้ำตาลในเลือดโดยตรง หากวัดหลายครั้งก็ต้องเจ็บหลายที
ความแม่นยำ = แม่นยำสูงกว่า เพราะวัดระดับน้ำตาลในเลือดโดยตรงโดยตรง
ความสะดวก = ต้องเจาะเลือดทุกครั้งเมื่อวัด ไม่สามารถติดตามแบบเรียลไทม์ได้
การแจ้งเตือน = ไม่มีแจ้งเตือน
– ใช้แทนกันได้ไหม ? –
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต การวัดน้ำตาลเหมาะกับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำตาลระหว่างวัน และต้องการติดตามน้ำตาลในร่างกายตลอดเวลา แต่สำหรับการเจาะปลายนิ้วยังคงเป็นวิธีมาตรฐานที่มีความแม่นยำกว่า แต่แลกมากับการที่เจ็บตัวและไม่สะดวกเท่ากับการใช้นาฬิกา
ถ้านำทั้ง 2 อย่างมาใช้ควบคู่กันก็จะสามารถช่วยในเรื่องการวัดน้ำตาลได้มากยิ่งขึ้น หากใช้ชีวิตประจำวันก็เลือกใช้นาฬิกา แต่ถ้าอยากได้ความแม่นยำมาก ๆ แบบนาน ๆ ทีก็สามารถเลือกใช้การเจาะได้นั่นเอง